วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พาเที่ยวผังเมือง 2 มหานคร กับอีก 1 ประเทศ



 
      วันนี้นำเรื่องสบายๆ มาฝากท่านผู้อ่านแฟนประจำ และแฟนขาจรกันอีกเช่นเคยค่ะ เรื่องที่นำมาเล่าสู่กันวันนี้อาจกึ่งๆ สารคดีนำเที่ยวเล็กน้อย มีสาระและประโยชน์ไม่มากก็น้อย ที่เก็บตกจากประสบการณ์การไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมืองมา และเห็นอะไรที่น่าสนใจจึงอยากนำมาฝาก หากทุกท่านพร้อมที่จะเดินทางแล้ว เราก็ไปลุยกันเลยค่ะ
ที่แรกที่เราจะไปกัน ก็คือ ผังเมืองของมหาครเซี่ยงไฮ้ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน
      เข้าไปเจะพบกับความตื่นตาตื่นใจกับการจัดนิทรรศการที่ถือว่า ของข้างจะ Hi-technology มากๆ มีการแบ่งโซน และห้องต่างๆ ที่เล่าประวัติความเป็นมาของมหานครแห่งนี้ตั้งยุคเริ่มแรก ของการก่อตั้ง มีการแสดงรูปจำลองสามมิติที่เคลื่อนไหวได้ด้วย 
 
      มีการจำลองสภาพภูมิประเทศให้เห็นโดยชัดเจน ทำให้ผู้ที่เข้าไปชมนิทรรศการได้เข้าใจเรื่องราวในความเป็นมาและเป็นไปในปัจจุบัน ทราบถึงเหตุผลว่าเหตุใด มหานครแห่งนี้จึงถือเป็นเมืองที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศจีนเป็นอย่างมาก เนื่องด้วยสภาพภูมิประเทศติดทะเล และเอื้ออำนวยต่อการขนส่งสินค้าและทำการค้าขาย 
 
      นอกจากนี้ ยังมีการจำลองสถาปัตยกรรม วิถีชีวิตของผู้คน  บ้านเมือง และสิ่งอำนวยความสะดวก ที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคตไว้ด้วย นอกจากนี้ยังมีห้องจัดแสดง Virtual World 4 มิติ ที่ทำให้เราเหมือนนั่ง Time Machine ย้อนเวลาจากอดีตสู่อนาคตเลยทีเดียว
     เห็นเค้าจัดนิทรรศการแบบนี้แล้วก็ทึ่งเลยล่ะค่ะ ประทับใจแบบสุดๆ เวลาเดินเข้าไปในตึกเล็กๆ เหมือนเราเป็นยักษ์ตัวโตๆ เดินเหยียบเข้าไปในเมือง แล้วก็รู้สึกสนุกที่ต้องมองหาว่า ตอนนี้เรากำลังอยู่ตรงไหนในเมืองเล็กๆ แห่งนี้  แล้วเราไปที่ไหนมาแล้วบ้าง  สิ่งที่เราอยากไปอยู่บริเวณไหน
      ที่ต่อไปที่เราจะไปกันก็ยังอยู่ที่จีน ค่ะ แต่เป็นอีก 1 มหานครใหญ่ซึ่งก็คือ  ผังเมืองของมหานครปักกิ่ง (Beijing Planning Exhibition Hall)
      มหานครแห่งนี้ถือเป็นเมืองหลวงของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ และมีความสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปกครองของจีนตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ก้าวแรกที่เข้าไป รู้สึกถึงความอลังการงานสร้างจริงๆ บรรยากาศในการจัดนิทรรศการไม่แตกต่างจากที่แรกที่เราไปกันมาเมื่อตะกี้นี้ หากแต่สถานที่ในการจัดนิทรรศการแห่งนี้มีด้วยกันมากกว่า 4 ชั้น ทุกห้องมีการจัดแสดงสื่อมัลติมีเดียที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง แต่จุดที่สนใจยังคงเป็นตึกจำลองเล็กๆ ทั้งหมดภายในเมืองและพระราชวังกู้กง หรือพระราชวังต้องห้ามที่จำลองมาได้อย่างสมจริง หากใครเคยไปเที่ยวในบริเวณที่ใกล้กับพระราชวังดังกล่าว คือ จัตุรัสเทียนอันเมิน หากเปรียบเทียบกับบ้านเราแล้วก็คงเหมือนกับสนามหลวงดีดีนี่เอง
      และเนื่องจากในปีนี้จะมีการจัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิคขึ้น ทำให้มีการสร้างสนามบินเพิ่มเติม รวมถึงสนามกีฬาต่างๆ เป็นจำนวนมาก การมาเที่ยวชมผังเมืองของมหานครแห่งนี้ ทำให้เราได้เห็นสนามแข่งขันกีฬาก่อนใคร  เที่ยวชมไป ก็แอบประทับใจไปกับความคิดในการจัดการสถานที่เชิงท่องเที่ยวที่มีประโยชน์ และมีค่าคู่ควรการศึกษา ที่นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมแล้วสามารถซึมซับและเข้าใจ ลักษณะภูมิประเทศ การจัดวางระบบผังเมืองที่ดี วัฒนธรรมความเป็นอยู่ตั้งแต่ อดีต ปัจจุบันและอนาคต  พร้อมทั้งมีการทำเอาเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมได้ด้วยตนเอง เช่น หนังสือจำลองที่สามารถพลิกหน้าได้ตามการเคลื่นไหวของมือมนุษย์
      เช่นเดียวกันกับผังเมืองแห่งแรก ที่นี่มีการวางแผนรูปแบบการใช้ชีวิต รูปแบบของที่อยู่อาศัย เครื่องใช้และสิ่งอำนวยความสะดวกที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไว้ให้ดูเช่นกัน ซึ่งถือว่าเป็นการคิดถึงอนาคตเพื่อเตรียมการรับมือกับสิ่งที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงกับคนในมหานครแห่งนี้ ได้อย่างรอบคอบและชาญฉลาดยอดเยี่ยมจริงๆค่ะ
      สถานที่สุดท้ายที่จะพาไปในวันนี้ คือผังเมืองที่ประเทศสิงคโปร์ค่ะ (City Gallery) 
      พอดีว่าในช่วงเดือนธันวาที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปฝึกอบรม ณ ประเทศแห่งนี้ จึงได้มีโอกาสไปท่องเที่ยวเชิงเก็บเกี่ยวความรู้ และที่ผังเมืองนี้เป็นสถานที่ที่ไม่ไปไม่ได้ จึงใช้โอกาสช่วงพักกลางวันไปเที่ยวชมเกือบทุกวัน เพราะใกล้สถานที่ฝึกอบรมและเค้าเปิดแค่วันจันทร์ถึงศุกร์ ในเวลาทำงานปกติเท่านั้น 
 
      ผังเมืองที่นี่ไม่ใหญ่มากเท่ากับสองที่แรกที่เพิ่งไป แต่ก็เป็นแหล่งที่ให้ความรู้ทางด้านภูมิศาสตร์ เศรษฐกิจ และการจัดวางระบบของเมืองในสิงคโปร์ได้เป็นอย่างดี ไปเที่ยวในที่แบบนี้ก็ดีไปอีกแบบ เพราะเราเดินทางไปไหนมาไหนโดยอาศัยแผนที่เป็นหลัก พอมาได้เห็นประเทศที่เป็นเกาะเล็ก ที่มีเมืองทั้งเมืองอยู่ตรงหน้า ทำให้เราเข้าใจถึงเส้นทางที่เราต้องการจะไปทั้งหมดได้ในทันที แต่ก็เป็นที่น่าเสียดายเพราะตอนช่วงที่ไปนั้นมีบางห้องจัดนิทรรศการปิดปรับปรุง ไม่เช่นนั้นคงได้พบกับความอลังการงานสร้างไม่แพ้กับผังเมืองใน 2 มหานครที่ผ่านมาเป็นแน่
    ที่ประทับใจคือการออกแบบบ้านและที่อยู่อาศัยในอนาคตของประเทศสิงคโปร์ ที่สอดคล้องกับธรรมชาติ สภาพภูมิศาสตร์ และช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างลงตัว
      เป็นอย่างไรกันบ้างค่ะ กับการท่องเที่ยวแบบนี้ ที่น่าดีใจคือไม่เสียตังค์ค่าเข้าชมด้วย คงได้กลิ่นอายอีกบรรยากาศหนึ่งของการไปเที่ยวต่างบ้านต่างเมือง และได้ถือโอกาสนี้รับเอาแนวคิดแปลกๆ ใหม่ที่ได้ไปเห็น ไปสัมผัสมาเล่าสู่กันฟัง ไหนๆ ไปเที่ยว ไปอบรมทั้งทีแล้ว และก็ไม่ใช่ไปบ่อยๆ ด้วย  การหาอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ที่คนอื่นๆ ไม่ไปกันก็ดีไปอีกแบบ
     หลังจากพาเที่ยววันนี้แล้ว เชื่อว่ามีหลายคนอาจเปลี่ยนความคิดที่จะไป Shopping เพียงอย่างเดียวเพื่อเพิ่ม GDP ให้กับประเทศนั้นๆ  ในโลกนี้มีอะไรให้ดูให้เห็นอีกเยอะแยะเลยค่ะ ครั้งต่อไปหากมีโอกาส จะพาไปเที่ยว พิพิธภัณฑ์แห่งหนึ่งที่เก็บรวบรมงานออกแบบสิ้นค้าชั้นนำต่างๆ และงานออกแบบสิ่งของต่างๆ ในอนาคต กับ Red dot design museum ที่สิงคโปร์ ซึ่งหากใครเคยไปแล้วคงจะต้องทึ่งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้าแน่นอน…

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น