ปี พ.ศ. 2554 ผ่านไปพ้น หลังจากที่ผ่านประสบการณ์เลวร้าย จากภัยธรรมชาติที่สร้างผลกระทบให้กับคนทั้งประเทศ ซึ่งแม้จะก้าวเข้าสู่ปี พ.ศ. 2555 ก็ยังมีประชาชนในบางส่วนของประเทศที่ยังได้รับความเดือนร้อนจากอุกทภัย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นล้วนส่งผลให้การก้าวขึ้นเข้าสู่ ปี พ.ศ. 2555 หรือปี ค.ศ. 2012 เต็มไปด้วย ความหวั่นวิตกทั้งจากคำทำนายซึ่งเผยแพร่ในสื่อออนไลน์ ความวิตกกังวลอาจทำให้เราอาจลืมเลือนไปว่า ในปีค.ศ. 2012 ยังมีปรากฏการณ์ทางจันทร์ที่น่าสนใจ ให้ศึกษาและเฝ้าสังเกตการณ์
ในปี ค.ศ. 2012 มีปรากฏการณ์ท้องฟ้าที่น่าสนใจ ที่ผ่านการคำนวนวัน เวลา ที่ปรากฏแน่นอนอยู่มากมาย แม้บางปรากฏการณ์ไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ในประเทศไทย แต่สำหรับผู้สนใจอยากได้ข้อมูลเพื่อศึกษาค้นคว้าสามารถติตตามและหาข้อมูลได้จากอินเตอร์เน็ตได้ ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่น่าสนใจในปี ค.ศ.2012 มีลำดับการเกิดตามวันและเวลา ที่แน่นอน มีดังนี้
ดาวอังคารเคลื่อนที่เข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 26 เดือน 5 มีนาคม 2555 ด้วยพื้นผิวที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเหล็กออกไซด์ เมื่อมองจากโลกจะเห็นดาวส่องประกายสีส้มแดงบนท้องฟ้า “ดาวเคราะห์สีแดง” จึงเป็นฉายาของดาวอังคาร ดาวเคราะห์ที่มนุษย์ส่งยานไปสำรวจมากที่สุดในระบบสุริยะ ในวันที่ 3 มีนาคม พ.ศ.2555 ดาวอังคารโคจรเข้ามาอยู่ในตำแหน่ง “ตรงข้าม” (opposition ตำแหน่งที่ดาวอังคาร โลก และดวงอาทิตย์ เรียงอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกัน) และจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดในวันที่ 5 มีนาคม 2555 ที่ระยะทาง 100 ล้านกิโลเมตร เมื่อมองจากโลก ดาวอังคารจะมีลำดับความสว่าง -1.2 ซึ่งนับว่าสว่างมากกว่าปกติมาก และมีขนาดเชิงมุมปรากฏ13.5 อาร์ควินาที (สว่างมากกว่าดาวอังคารในช่วงที่สว่างน้อยที่สุดประมาณ17 เท่า) ดาวอังคารขึ้นเวลา 18:16 น. ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และตกในเวลา 06:41น. ของวันที่ 6 มีนาคม 2555 ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือโดยปรากฏบนท้องฟ้าทิศใกล้กลุ่่มดาวสิงโต
(ซ้าย) ดาวอังคารในตำแหน่ง ตรงข้ามดวงอาทิตย์ ในช่วง ปี 2003 -2018 ซึ่งดาวอังคารเข้าใกล้โลกที่สุดผ่านไปเมื่อปี ค.ศ.2003(ภาพโดย Bob King: astrobob.areavoices.com) (ขวา) ในวันที่ 5 มีนาคม 2555ดาวอังคารจะปรากฏบนทท้องฟ้าตลอดทั้งคืน ผู้ที่สนใจการดูดาวและศึกษาดาราศาสตร์จะมีโอกาสในเฝ้าสังเกตการณ์ตั้งแต่หัวค่ำ จนถึงรุ่งสางของวันถัดไป
สุริยุปราคาวงแหวน 21 พฤษภาคม 2555 เมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลกเรียงตัวอยู่ในแนวเดียวกัน จะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาราคาขึ้นเงาของดวงจันทรจะทอดลงบนพื้นโลก สิ่งที่ปรากฏแก่สายตาของผู้เฝ้าสัเกตุการณ์คือการที่แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ลดลง รูปร่างของดวงอาทิตย์จะเกิดเสี้ยวคล้ายดวงจันทร์ที่เปลี่ยนรูปร่างในแต่ละคืน หรือถูกบังจนหมดทั้งดวงขึ้นอยู่กับรูปแบบการบัง สุริยุปราคาในวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 เป็นแบบ“วงแหวน” เพราะดวงจันทร์ทั้งดวงดวงเคลื่อนที่เข้าบังดวงอาทิตย์แต่เนื่องจากขนาดปรากฏของดวงจันทร์มีขนาดเล็กกว่า ทำให้ไม่สามารถบังดวงอาทิตย์ได้หมดทั้งดวง เราจะเห็นดวงอาทิตย์ปรากฏเป็นวงแหวนกลางท้องฟ้า เป็นที่น่าเสียดายที่ประเทศไทยไม่อยู่ในบริเวณที่สามารถสังเกตุเห็นสุริยุปราคาแบบวงแหวนได้ เพราะแนวการบังของดวงจันทร์ จะเริ่มต้นที่ ทางตอนใต้ของประเทศจีน ในเวลา 05:06น. ตามเวลาประเทศไทย และเคลื่อนที่ไปทางตะวันออก ผ่านมหาสมุทรแปซิฟิกไปจนถึงทวีปอเมริการวมระยะทางของเงาดวงจันทร์ 7,000 กิโลเมตร สิ้นสุดการบังเวลา 20:17 น.ตามเวลาประเทศไทย ประเทศที่สามามารถสังเกตุเห็นสุริยุปราคาวงแหวน คือประเทศญี่ปุ่น เมืองหลวงโตเกียวซึ่งอยู่ในแนวศูนย์กลางของการเกิดสุริยุปราคาส ส่วนในประเทศไทยสามารถชมปรากฏการณ์ครั้งนี้ในแบบสุริยุปราคาบางส่วน ดวงอาทิตย์ขึ้นเวลา 05:50 น.ยังสามารถมองเห็นการบังได้ก่อนสิ้นสดุการบังที่เวลา 06:06 น. ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศของวันที่เกิดสุริยุปกราคาเนื่องจากดวงอาทิตย์อยู่ใกล้ขอบฟ้าอาจมีเมฆบังทำให้มองไม่เห็นดวงอาทิตย์ขณะเกิดปรากฏการณ์ผู้ที่สนใจสามารถติดตามการถ่ายทอดปรากฏการณ์ได้จากอินเตอร์เน็ตซึ่งถ่ายทอดมาจากผู้สังเกตการณ์ในบริเวณที่สามารถสังเกตเห็นได้
(ซ้าย) ลำดับการเปลี่ยนรูปร่างของดวงอาทิตย์ขนะเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน
(ขวา) ข้อมูลโดยละเอียดของการเกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคาวงแหวน(ภาพจาก http://eclipse.gsfc.nasa.gov)
การเรียงตัวในแนวเดียวกันของ โลก ดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ปรากฏซ้อนทับกันบนท้องฟ้า แต่ขนาดปรากฏของดวงจันทร์เล็กกว่าดวงอาทิตย์เวลาที่จุดศูนย์กลางของวัตถุทั้งสองตรงกันทำให้ดวงจันรทร์่บังดวงอาทิตย์ไม่หมด จะปรากฏเป็นวงแหวนบนท้องฟ้า(ภาพวงแหวนที่ถ่ายได้เกิดจากการใช้แผ่นกรองแสง แม้ว่าจะถูกบังเกือบหมดแต่ความสว่างก็อันตรายต่อการมองด้วยตาเปล่าหรือถ่ายเซนเซอร์ของกล้องถ่ายภาพที่ปราศจากฟิลเตอร์)สุริยุปราคาครั้งนี้ลักษณะวงแหวนอย่างชัดเจนเนื่องจากดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์เป็นพื้น แค่ 94%
จันทรุปราคาบางส่วน 4 มิถุนายน 2555 ย่างเข้าสู่เดือนมิถุนายน ในเดือนเดียวมีปรากฏการณ์ที่น่าสนใจถึงสองปราฏการณ์ เริ่มจากจันทรุปราคาบางส่วน ซึ่งเป็นจันทรุปราคา ครั้งแรกของ ปี 2012 ดวงจันทร์จะเข้าไปอยู่ในเงาของโลก ตั้งแต่เวลา 15:48 น. และมีเริ่มมีการเว้าแหว่งตั้งแต่เวลา 16:58 น. โดยดวงจันทร์่จากที่เห็นเต็มดวงจะเริ่มเว้าแหว่งมากขึ้นเรื่อยๆจนถึงเวลา 18:03น. ก็จะเริ่มกลับสู่การเต็มดวงอย่างช้าๆ อีกครังสำหรับประเทศไทยดวงจันทร์ขึ้นพ้นจากเส้นขอบฟ้าเวลา 18:41 ซึ่งยังไม่สิ้นสุดการบัง ดังนั้นผู้สังเกตที่อยู่ในประเทศไทยยังมีโอกาสได้ชมปรากฏการณ์นี้ในช่วงท้ายก่อนสิ้นสุดการบังที่เวลา 20:18 น. ขึ้นอยู่กับสภาพท้องฟ้าเพราะดวงจันทร์เพิ่งพ้นจากขอบฟ้า อาจมีเมฆบดบังทำให้ไม่สามารถมองเห็นดวงจันทร์ซึ่งอยู่ในช่วงท้ายของปรากฏการณ์
(ซ้าย) รูปแบบของการเกิดจันทรุปราคาในแบบต่างๆ(ภาพจาก www.physics.hku.hk/) (กลาง) จันทรุปราคาที่ปรากฏเมื่องมองจากโลก
(ขวา) ตารางการแสดงรายละเอียดการเกิดจันทรุปราคา(ภาพจาก http://eclipse.gsfc.nasa.gov/OH/OHfigures/OH2012-Fig03.pdf)
ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ วันที่ 6 มิถุนายน 2555 ถือได้ว่าเป็นปรากฏการณ์จุดเด่นของ ปี ค.ศ. 2012 ปรากฏการณ์นี้ก็เหมือนกับการเกิดจันทรุปราคา นั้นคือการที่มีวัตถุโคจรเข้ามาอยู่ระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ โดยเรียงตัวเป็นเส้นตรง ต่างกันที่ดาวศุกร์มีขนาดปรากฏบนท้องฟ้าเล็กมากเมื่อเทียบกับขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์บนท้องฟ้า ( ถ้าเปรียบเทียบขนาดปรากฏของดวงอาทิตย์ลูกบาสเกตบอล ขนาดของดาวศุกร์ทีปรากฏผ่านหน้าจะมีขนาดปรากฏพอๆกับเม็ดถั่วเขียว) ปรากฏเป็นวงกลมเล็กๆเคลื่อนที่ตัดผ่านดวงอาทิตย์ ซึ่งเมื่อมองจากโลกดวงอาทิตย์เองก็มีลักษณะเป็นแผ่นกลมๆบนท้องฟ้า(ข้อควรระวัง ในการสังเกตการณ์ดวงอาทิตย์ต้องใช้แผ่นกรองแสงที่ผ่านการรับรองความปลอดภัยแล้วเท่านั้น) ซึ่งปราฏการณ์นี้เกิดขึ้นล่าสุดเมื่อปี ค.ศ. 2004 แต่ถ้าพลาดครั้งนี้ไปแล้วจะต้องรออีก 105 ปีถึงจะเกิดปรากฏการณ์นี้อีกครั้ง
(ซ้าย) รูปแบบการเรียงตัวของดวงอาทิตย์ ดาวศุกร์ และโลก ขนะเกิดปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ (ภาพจาก http://www.maya12-21-2012.com) ขวา ดาวศุกร์ปรากฏผ่านหน้าดวงอาทิตย์เมื่อมองผ่านแผ่นกรองแสง (ภาพโดย Giovanni Paglioli)
(ขวา) รายละเอียดเกี่ยวกับวันและเวลาของการเกิด ปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ ในช่วงต่างๆ ตามเวลาสากล (ซ้าย) ตำแหน่งต่างๆบนโลกซึ่งสามารถสังเกตการณ์ได้ (ภาพจาก http://eclipse.gsfc.nasa.gov/transit/venus0412.html) สามารถติดตามข้อมูลและชมปรากฏการณ์ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์ได้จากเว๊ปไซต์ของสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ(องค์การมหาชน)
เวลาเช้าของวันที่ 6 มิถุนายน 2555 ที่ตำแหน่งประเทศไทยดวงอาทิตย์ขึ้นจากขอบฟ้าเวลา เวลา 05:52 น. ซึ่งปรากฏการณ์นี้จะเริ่มต้นเวลา05:09 น.ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งหมายความว่าที่ประเทศไทยจะไม่สามารถเห็นปรากฏการณ์ตอนที่เงาของดาวศุกร์แตะขอบดวงอาทิตย์ หลังจากดวงอาทิตย์โผล่พ้นขอบฟ้าจะปรากฏเงาของดาวศุกร์อยู่ด้านหน้าของดวงอาทิตย์ จากทิศตะวันออกเฉียงเหนือและเคลื่อนกินพื้นที่เข้ามาลึกที่สุดเวลา 07:29น. แล้วจะเริ่มเคลื่อนที่ออกจากด้านหน้าของดวงอาทิตย์จนกระทั่งสิ้นสุดปรากฏการณ์เวลา 11:49 น.
สุริยุปราคาเต็มดวง 14 พฤศจิกายน 2555 หลังจากผ่านพ้นฤดูฝน เข้าสู่ฤดูหนาว เข้าสู่ช่วงท้ายของปี ค.ศ. 2012 ปรากฏการณ์ทางยังมีให้ติดตามเฝ้าติดตามกันอย่างไม่ขาดสาย ไม่มากนักสำหรับโอกาสที่จะเกิดสุริยุปราคาสองครั้งในปีเดียวกัน สำหรับสุริปราคาครั้งที่สอง ของปี ค.ศ. 2012นั้นเป็นแบบเต็มดวง แต่ไม่สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทยเพราะศูนย์กลางของการเกิดสุริยุปราคาแบบเต็มดวง(พื้นที่ซึ่งทำให้เรามองเห็นดวงอาทิตย์ถูกบดบังแสงทั้งหมด ทำให้บริเวณนั้นเกิดสภาพคล้ายกลางวันกลายเปลี่ยนเป็นกลางคืนชั่วขนะ) เคลื่อนที่ผ่านผ่านบริเวณพื้นที่แคบๆทางตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ที่แทบจะไม่มีพื้นแผ่นดินให้ยืนตั้งมั่นเพื่อเฝ้าสังเกตการณ์ยกเว้นตอนเหนือของทวีปออสเตรเลีย ซึ่งดวงจันทร์เริ่มเข้าบังดวงอาทิตย์เต็มดวง 03:35 น. ตามเวลาประเทศไทย (เป็นเวลา 20:35 ของวันที่ 13 พฤศจิกายน 2555 ตามเวลาสากล) โดยเงามืดของดวงจันทร์เคลื่อนที่ต้นตั้งแตจากอุทยานแห่งชาติ Garig Ganak Barlu ทางเหนือของเมือง Darwin 250 กิโลเมตร ลงใต้ผ่านอ่าว Carpentaria ขึ้นสู่แผ่นดินอีกครั้งที่Cape York Peninsula ที่เวลา 03:37 น. สถานที่เหมาะสมในการเฝ้าสังเกตการณ์ปรากฏการณ์นี้คือ เมือง Cairns ทางฝั่งตะวันตกของ Queenlandซึ่งอยู่ห่างจากศูนย์กลางของเส้นทางเงามืด 30 กิโลเมตร ซึ่งสามารถชมปรากฏการณ์ได้นาน 2 นาที หลังจากผ่านผืนทวีปไปเงามืดของดวงจันทร์ จะผ่านมหาสมุทรแปซิกฟิกก่อนที่จะไปสิ้นสุดที่บริเวณตอนใต้ของประเทศชิลี เวลา 06:48 น. โดยมีช่วงเวลาที่เกิดสุริยุปราคายาวนานที่สุด 4 นาที 2วินาที ส่วนบริเวณที่พอจะเห็นปรากฏการณ์นี้ในแบบสุริยุปราคาบางส่วนได้นั้นกินพื้นที่ส่วนใหญ่ของมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้
(ซ้าย) รายละเอียดการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2012 (ภาพโดย http://eclipse.gsfc.nasa.gov) (ขวา) แผนที่ Cape York Peninsula (ภาพโดยhttp://en.wikipedia.org/wiki/Cape_York_Peninsula)
ฝนดาวตกเพอร์เซอิดส์หรือฝนดาวตกวันแม่ 12 สิงหาคม 2555 เศษอุกกาบาตดาวหาง 109P/Swift-Tuttle ที่ถูกทิ้งไว้เมื่อผ่านเข้าใกล้ดวงอาทิตย์ ในปี ค.ศ.1992 ได้ทำให้เกิดฝนดาวตกเพอร์เซอิด เกิดขึ้นตั้งแต่กลางเดือนกรกฏาคม ถึงปลายเดือน สิงหาคม คาดว่าจะตกมากที่สุดในวันที่ 12สิงหาคม 2555 ในช่วงที่ฝนดาวตกมากที่สุดอาจมีจำนวนดาวตกมากถึง 40-60 ดวต่อชั่วโมง แต่ในปี พ.ศ.2555 คาดการไว้ว่าจำนวนดาวตกจะมีไม่มากนัก แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดอาจเกิดขึ้นได้เสมอ
(ซ้าย) ฝนดาวตกเพอร์เซอิด เป็นฝนดาวตกที่มีจำนวนดาวตกมาก และสามารถเห็นได้ชัดเจน ซึ่งมีศูนย์กลางของการกระจายอยู่ในกลุ่มดาวเพอร์ซิอุส ซึ่งเป็นกลุ่มดาวในซีกฟ้าเหนือ (ภาพโดย Fred Bruenjes : http://apod.nasa.gov) (ขวา)ตำแหน่งของกลุ่มดาวเพอร์ซิอุสบนท้องฟ้า (ภาพโดย www.meteoshoweronline.com)
สำหรับประเทศไทยเวลาที่เหมาะสมกับการเฝ้ามองฝนดาวตกเพอร์เซอิดได้ตั้งแต่วันที่ 12-13 สิงหาคม 2555 ตั้งแต่เวลา 22:00 น.จำนวนดาวตกจะเพิ่มเรื่อยและมากที่สุดประมาณ 03:00-04:00 ของเช้ามืดวันถัดไปในปีนี้คาดการณ์ว่าวันที่ 13 สิงหาคม 2555 จะมีฝนดาวตกมากที่สุด ส่วนการรบกวนด้วยแสงจากดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าเป็นเวลา 01:00 น.นั้นค่อนข้างน้อยเนื่องจากดวงจันทร์ มีรูปร่างเป็นเสี้ยว แต่ปํญหาที่พบมากสำหรับการสังเกตการณ์ฝนดาวตกเพอร์เซอิดในประเทศไทยคือช่วงเวลาดังกล่าวอยู่ในฤดูฝน ภาคเหนือและภาคกลางมักมีเมฆหนาทึบปกครองตลอดทั้งคืน แต่ผู้สังเกตที่อยู่ภาคใต้จะมีโอกาสดูฝนดาวตกมากกว่าภูมิภาคอื่นๆ
ฝนดาวตกกลุ่มดาวลีโอนิดส์ 17-18 พฤศจิกายน 2555 หลังจากประเทศไทยผ่านพ้นฤดูฝน ย่างเข้าสู่ฤดู หนาวซึ่งถึอว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมกับการเฝ้าดูปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ เริ่มต้นด้วยปรากฏการณ์ฝนดาวตกกลุ่มดาวเจมินิดส์ซึ่งเกิดจาก เศษอุกกาบาตที่ถูกดาวหาง 55P/Tempel-Tuttleทิ้งไว้ขวางเส้นทางโคจรของโลก ตอนที่โคจรเข้าใกล้ดวงอาทิตย์เมื่อปี พ.ศ. 2541 เมื่อโลกโคจรผ่านบริเวณดังกล่าวจึงดึงดูดชิ้นส่วนเหล่านี้เข้าสู่ขั้นบรรยากาศกลายเป็นฝนดาวตก โดยมีอัตราเฉลี่ย 10-15 ดวงต่อชั่วโมง โดยกลุ่มดาวสิงโตซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการกระจายของฝนดาวตกขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่เที่ยงคืน โดยในปีนี้คาดว่าจะมากที่สุดในช่วงคืนวันที่17 ข้ามไปถึงเช้ามืดของวันที่ 18 พฤศจิกายน 2555 ซึ่งในช่วงนี้ดวงจันทร์อยู่ในช่วงข้างขึ้น มีลักษณะเป็นเสี้ยวบาง และตกในเวลา 21:25 น. ของวันที่ 17 พฤศจิกายน 2555 ดังนั้นแสงจันทร์จึงไม่เป็นอุปสรรคในการเฝ้าดูฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงห์โต
(ช้าย) ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงห์โตมีลักษณะโดดเด่น สังเกตุได้ง่ายเพราะมีขนาดใหญ่และสว่าง สามารถพบเห็นเป็นลักษณะของลูกไฟ (fireball) มากกว่าดาวตกกลุ่่มดาวอื่น (ภาพจากhttp://www.oasi.org.uk) (ขวา) กลุ่มดาวสิงโต(ภาพจาก http://urbanastronomer.blogspot.com)
จันทรุปราคาเงามัว 28 พฤศจิกายน 2555 นับเป็นจันทรุปราคาครั้งที่สองของปี ค.ศ. 2012 เป็นแบบ “เงามัว” ซึ่งความสว่างของดวงจันทร์จะลดลงอย่างชัดเจนจนสามารถสังเกตุเห็นด้วยตาเปล่า โดยจะมืดลงจากทางด้านเหนือของดวงจันทร์ โดยเริ่มต้นปรากฏการณ์เมื่อดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวเวลา 19:14 น. ตามเวลาประเทศไทย และเข้าสู่เงามัวทั้งดวงเวลา 21:33 น. และสิ้นสุดปรากฏการณ์ 23:51น. ในสถานะการณ์จริงการสังเกตุการจันทรุปราคาเงามัวตอนที่เริ่มและสิ้นสุดปรากฏการณ์ ด้วยตาเปล่าแทบจะไม่สามารถสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลง จนกระทังดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวไปแล้ว2/3 ของพื้นที่ปรากฏของดวงจันทร์ ซึ่งก็อยู่ในช่วงเวลาที่ดวงจันทร์เข้าสู่เงามัวมากที่สุดด้วย
รายละเอียดการเกิดจันทรุปราคาเงามัว ซึ่งประเทศไทยสามารถเฝ้า สังเกตการณ์ได้ตลอดการเกิดปรากฏการณ์ (ภาพโดยhttp://eclipse.gsfc.nasa.gov)
ฝนดาวตกเจมินิดส์ 13 ธันวาคม 2555 ปรากฏการณ์สุดท้ายของปีค.ศ. 2012 เป็นฝนดาวตกซึ่งขึ้นชื่อเรื่องของจำนวนดาวตกมากกว่าฝนดาวตกชุดอื่นๆ ด้วยจำนวนดาวตกเฉลี่ย 120-160 ดวงต่อชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพท้องฟ้า ฝนดาวตกเจมิดส์มีช่วงเวลาการตกสูงสุดยาวนานหลายชั่วโมงดังนั้นเมื่อกลุ่มดาวคนคู่ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการกระจาย พ้นขอบฟ้าในเวลาประมาณ 20:00 น. ของวันที่ 13 จำนวนของดาวตกจะเพิ่มขึ้นจนกระทั้งช่วงเวลา 02:00-04:00 ของวันที่ 14 ธันวาคม 2555 ซึ่งเป็นช่วงที่มีดาวตกมากที่สุดคาดว่าอาจเกิน 100 ดวงต่อชั่วโมง ซึ่งในวันดังกล่าวเป็นช่วงเดือนมืดซึ่งแสงดวงจันทร์ไม่รบกวนการชมฝนดาวตกเช่นกัน
ภาพแสดงกลุ่มดาวคนคู่ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางการกระจายของฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่ (ภาพจากhttp://meteorshowersonline.com)
ปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ที่ซึ่งเกี่ยวข้องกับตำแหน่งของดาวเคราะห์รวมถึงเหตุการณ์สำคัญซึ่งเกี่ยวข้องกับและมีความน่าสนใจอื่นๆ ตามกำหนดเวลาดังนี้
28 เมษายน 2555 ดาวเสาร์ อยู่ตำแหน่ง “ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์” โดยปรากฏในกลุ่มดาวหญิงสาวใกล้เคียงกับดาวฤกษ์ชื่อ spica ขึ้นพ้นขอบฟ้าเวลา17:34 น. ตามเวลาเทศไทย และวันที่ 3 ธันวาคม 2555 ดาวพฤหัสบดีอยู่ตำแหน่ง ตรงข้าม ปรากฏในกลุ่มดาววัว
ซ้ายช่วงเวลาดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่ดาวเคราะห์วงนอก อยุ่ห่างจากโลกน้อยที่สุดเหมาะสมกับการสังเกตการณ์ดาราศาสตร์
ตำแหน่ง ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ เป็นตำแหน่งในวงโคจรของดาวเคราะห์วงนอก ซึ่งมองเห็นด้วยตาเปล่าได้คือดาวอังคาร ซึ่งสามารถมองเห็นความแตกต่างของความสว่างได้มากที่สุด ส่วนดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์เห็นความเปลี่ยนแปลงของความสว่างได้น้อยมาก(ภาพจากhttp://astronomy.swin.edu.au)
นอกจากปรากฏการณ์ธรรมชาติแล้วในปี ค.ศ. 2012 ยังมีเหตุการณ์ที่น่าสนใจและสมควรติดตาม คือการลงจอดบนดาวอังคาร ของยานสำรวจภาคพื้น Curiosity ที่มีเทคโนโลยี่ล้ำหน้าที่สุดของยานสำรวจดาวเคราะห์ ตามภาระกิจ Mars science laboratory จะลงจอดบนพื้นผิวดาวอังคาร ในวันที่ 5สิงหาคม 2555
ยานสำรวจ Curiosity พร้อมกับอุปกรณ์ทดลองทางวิทยาศาสตร์วิโดยมีเป้าหมายหลักคือการค้นหาสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก และศึกษาสภาพแวดล้อมของดาวอังคารเพื่อวางแผนสำหรับการส่งมนุษย์ไปเยือนดาวอังคารในอนาคต
วัน/เดือน/ปี
|
ปรากฏการณ์
|
ช่วงเวลาที่เกิดปรากฏการณ์
|
การสังเกตการณ์ในประเทศไทย
|
อุปกรณ์
|
5 มีนาคม 2555
|
ดาวอังคารเคลื่อนที่เข้าใกล้โลกมากที่สุด
|
18:16- 06:41น. ของวันที่ 6 มีนาคม 2555
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า,กล้องสองตา,กล้องโทรทรรศณน์
|
28 เมษายน 2555
|
ดาวเสาร์อยู้่ในตำแหน่งตรงข้าม
|
ตลอดทั้งคืน
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า,กล้องสองตา,กล้องโทรทรรศณน์
|
21 พฤษภาคม 2555
|
สุริยุปราคาวงแหวน
|
05:00-20:17 น.
|
สังเกตการณ์ได้จากประเทศไทยในรูปแบบของสุริยุปราคาบางส่วน
|
แผ่นกรองแสงอาทิตย์,กล้องโทรทรรศน์
|
4 มิถุนายน2555
|
จันทรุปราคาบางส่วน
|
15:48-18:03 น.
|
สามารถสังเกตการณ์ได้จากประเทศไทย ในช่วงท้ายของปรากฏการณ์
|
ตาเปล่า,กล้องสองตา,กล้องโทรทรรศณน์
|
6 มิถุนายน2555
|
ดาวศุกร์ผ่านหน้าดวงอาทิตย์
|
05:09-11:49 น.
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
กล้องโทรทรรศน์ ติดตั้งแผ่นกรองแสงอาทิตย์
|
5 สิงหาคม 2555
|
ยาน Curiosity ในภารกิจ Mars science laboratory ลงจดบนดาวอังคาร
|
-
|
ไม่สามารถสังเกตการณ์ได้จากประเทศไทย
|
ติดตามจากการแถลงการของ นาซา
|
12-13 สิงหาคม 2555
|
ฝนดาวตกเพอร์เซอิดหรือฝนดาวตกวันแม
|
22:00-04:00ของเช้าวันถัดไป
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสภาพท้องฟ้า ทางภาคใต้มีโอกาสได้ชมปรากฏการณ์มากกว่าภาคเหนือและภาคกลาง
|
ตาเปล่า
|
14 พฤศจิกายน 2555
|
สุริยุปราคาเต็มดวง
|
03:35-06:48 น.
|
ไม่สามารถสังเกตการณ์ได้จากประเทศไทย
|
แผ่นกรองแสงอาทิตย์,กล้อง โทรทรรศน์
|
17-18 พฤศจิกายน 2555
|
ฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงห์โต
|
00:00 - 04:00 น
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า
|
28 พฤศจิกายน 2555
|
จันทรุปราคาเงามัว
|
21:33-23:51 น.
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า,กล้องสองตา,กล้องโทรทรรศณน์
|
3 ธันวาคม 2555
|
ดาวพฤหัสอยู่ตำแหน่งตรงข้าม
|
ตลอดทั้งคืน
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า,กล้องสองตา,กล้องโทรทรรศณน์
|
13 ธันวาคม 2555
|
ฝนดาวตกกลุ่มดาวคนคู่
|
ตลอดทั้งคืนของันที่ 13 และมากที่สุดเวลา 02:00-04:00 ของวันที่ 14
|
สามารถสังเกตการณ์ได้ในประเทศไทย
|
ตาเปล่า
|
ตาราง แสดงปรากฏการณ์และเหตุการทางดาราศาสตร์ ในปี ค.ศ. 2012